สายการอัดรีดท่อ HDPE หลายชั้น

ท่อ HDPE เป็นท่อพลาสติกชนิดยืดหยุ่น ผลิตจากเทอร์โมพลาสติกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการถ่ายเทของเหลวและก๊าซที่อุณหภูมิต่ำ ในปัจจุบัน ท่อ HDPE ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในการลำเลียงน้ำดื่ม ของเสียอันตราย ก๊าซต่างๆ สารละลาย น้ำร้อน น้ำฝน และอื่นๆ พันธะโมเลกุลที่แข็งแรงของท่อ HDPE ช่วยให้สามารถนำไปใช้งานกับท่อแรงดันสูงได้ ท่อโพลีเอทิลีนมีประวัติการใช้งานที่ยาวนานและโดดเด่นสำหรับอุตสาหกรรมก๊าซ น้ำมัน เหมืองแร่ น้ำ และอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วยน้ำหนักเบาและความต้านทานการกัดกร่อนสูง อุตสาหกรรมท่อ HDPE จึงเติบโตอย่างมาก ในปี พ.ศ. 2496 คาร์ล ซีเกลอร์ และแอร์ฮาร์ด โฮลซ์แคมป์ ได้ค้นพบโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) ท่อ HDPE สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -2200 ถึง +1800 องศาฟาเรนไฮต์ อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้ท่อ HDPE เมื่ออุณหภูมิของของเหลวสูงกว่า 1220 องศาฟาเรนไฮต์ (500 องศาเซลเซียส)

ท่อ HDPE ผลิตโดยกระบวนการพอลิเมอไรเซชันของเอทิลีน ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากน้ำมัน มีการเติมสารเติมแต่งหลายชนิด (สารคงตัว สารตัวเติม สารพลาสติไซเซอร์ สารทำให้นุ่ม สารหล่อลื่น สารแต่งสี สารหน่วงไฟ สารเป่า สารเชื่อมขวาง สารเติมแต่งที่ย่อยสลายได้ด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต ฯลฯ) เพื่อผลิตท่อและส่วนประกอบ HDPE ขั้นสุดท้าย ความยาวท่อ HDPE ผลิตโดยการให้ความร้อนแก่เรซิน HDPE จากนั้นจึงถูกอัดรีดผ่านแม่พิมพ์ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ความหนาของผนังท่อถูกกำหนดโดยการรวมกันของขนาดแม่พิมพ์ ความเร็วของสกรู และความเร็วของรถแทรกเตอร์ที่ใช้ลากท่อ โดยปกติแล้วจะมีการเติมคาร์บอนแบล็ก 3-5% ลงใน HDPE เพื่อให้ทนต่อรังสี UV ซึ่งจะทำให้ท่อ HDPE มีสีดำ มีสีอื่นๆ ให้เลือก แต่มักไม่ค่อยได้ใช้กัน ท่อ HDPE แบบมีสีหรือมีลายมักจะเป็นวัสดุสีดำ 90-95% โดยมีแถบสีบนพื้นผิวด้านนอก 5%